เรื่องราวจากโมโกจู EP. 2


... เรื่องราวจากโมโกจู ...


... มิตรภาพ ความทรงจำ ความหวัง และเรื่องราวระหว่างทาง ...


EP 2 : มิตรภาพ คือ อีกหนึ่งความสุขระหว่างการเดินทาง


... โมโกจูนับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่เดินป่าที่น่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความโหดในการเดิน และความโหดในการจองทริป และนั่นเป็นหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้มีมิตรภาพดีๆ ที่น่าจดจำเกิดขึ้น ...


... จริงๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรากำลังเริ่มเดินป่าเล็กๆ ระยะใกล้ แต่หลังจากกลับจากภูกระดึง ซึ่งเครื่องกำลังร้อนมาก เราก็เลยสนใจเข้าไปศึกษาเรื่องการเดินป่าหรือการเทรคกิ้งมากขึ้น ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นมาก และแน่นอนว่าคำว่า ‘โมโกจู’ ก็เข้ามาอยู่ในโสตประสาทเราหลายครั้งมากๆ ตั้งแต่เราเริ่มสนใจการเดินป่า ...


... จนมีอยู่วันหนึ่งเราเข้าไปดูเพจคนเดินป่าโดยเลื่อนไปเรื่อยๆ และเห็นประกาศรับลูกทริปไปทริปโมโกจูด้วยกัน ซึ่งหลังจากที่เราเช็ควันที่แล้ว ...


... เฮ้ย ! เราว่าง ...


... รออะไร ไปสิจ๊ะ และแล้วเราก็ส่งข้อความเพื่อสมัครเข้าร่วมทริป และแล้วหัวหน้าทีมที่น่ารักก็เลือกเรา และแล้วเราก็ได้เข้าร่วมทีมกับทุกคน และแล้วนี่คือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพดีๆ ของเรา ...


... พอเราเข้าไปอยู่ในกลุ่มของคนที่เขารักการเดินป่าจริงๆ สารภาพเลยว่าตื่นเต้นมากๆ ทุกคนดูแอคทีฟและทำงานเป็นทีมที่สุด (อันนี้เป็นความภูมิใจที่อยากเล่าอวด อิอิ) และที่สำคัญทุกคนดูตื่นเต้นเหมือนๆ กับเราเลย ...


... วันที่เราต้องเจอทุกคนจริงๆ เราตื่นเต้นมากนะ เพราะเรามาจากการไม่รู้จักกันเลย และสมัครกันมาเอง แต่เราดีใจที่เราทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ...


... พิชิตโมโกจู ...


... ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เราไม่รู้สึกว่าทุกคนคือ คนแปลกหน้าเลย อาจจะเป็นเพราะเราคุยเรื่องราวต่างๆ ในการเดินป่าในข้อความทุกวัน หรือเพราะอะไรสักอย่างที่เกิดขึ้นกับทุกคน ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น หรือเพราะอะไรสักอย่าง ...


... ซึ่งพอใกล้ถึงวันจริงๆ สิ่งที่ทีมเราเฝ้าทำมาแรมปี และมีประสิทธิภาพดีขึ้นทุกวัน นั่นคือ การฝึกส่งอีเมลเพื่อจองทริปกับอุทยาน อันนี้ทีมเราฝึกซ้อมกันจริงจังทุกวันเหมือนกับกำลังเข้าแข่งโอลิมปิก ซึ่งทุกๆ คนสุดยอดและเก่งมากๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงได้ไป ...โมโกจู ...


... แต่ที่ขาดไม่ได้เวลาที่พวกเราคุยกันก็คงจะเป็นเรื่องของอาหาร คือ เราบอกได้เลยว่า เราไม่ได้ไปกันเล่นๆ​ ...


... แต่พวกเราแค่ไปเปลี่ยนที่ทานข้าว เพราะแต่ละเมนูที่รังสรรค์ขึ้นมานั้น มันอาหารขึ้นเหลาชัดๆ ...


... มันทำให้เราได้รู้ว่าการกินอาหารที่ดีที่สุดคือ การกินกันหลายๆ คน ...


... มันทำให้เราได้รู้ว่าการกินอาหารที่ดีที่สุดคือ การแย่งกันกิน ...


... มันทำให้เราได้รู้ว่าการกินอาหารที่ดีที่สุดคือ การกินอาหารที่ตากปลาหมึกแห้ง(ถุงเท้า) ไว้ข้างเตา ...


... มันทำให้เราได้รู้ว่าการกินอาหารที่ดีที่สุดคือ การกินไปยิ้มไปแม้จะนั่งอยู่บนพื้นดิน การกินไปพูดคุยเรื่องราวระหว่างทางกันไป การกินไปหัวเราะไปแม้จะมีเม็ดดินกระเด็นลงไปในจานข้าวก็ตาม ...


... หรือแม้แต่การหาจานข้าวไม่เจอ แล้วต้องใช้แก้วน้ำแทนก็ตาม ...


... มันทำให้เรารู้ว่า ไม่ว่าเรากำลังจะทำอะไรอยู่ สิ่งที่สำคัญคือ คนข้างๆ ความสุข รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม มันจะทำให้เราผ่านพ้นเรื่องพวกนั้นไปได้อย่างง่ายดาย มากกว่าที่เราคิด แต่พอเรารู้ตัวอีกที เราก็ผ่านมันมาได้แล้ว ...


... มันวิเศษ ใช่มั้ย ...


... และนี่คือเพื่อนร่วมทางของเรา ...



... คุณเจนผู้แสนน่ารัก หัวหน้าทริปเราเอง ผู้คอยดูแลทุกอย่างของทุกคนได้อย่างดีเยี่ยม


คุณปิ้นผู้แสนรั่ว ผู้สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และอาหารอร่อยๆ ให้กับพวกเรา


พี่เอสายเปที่แท้ทรู เร็วกว่าเน็ตห้าจีก็การโอนเงินของพี่เอนี่ล่ะ


พี่โอ๊ตพลิกเก็ต ผู้กระโดดลงเขาไปเรื่อยๆ ได้น่ารักที่สุดในโลก


ลุงโบ้กระดูกหมู พ่อครัวหัวป่าที่ทุ่มเทในการแบกกระดูกหมูเป็นกิโลๆ ฝ่าฟันระยะทางกว่าสิบหกกิโลเพื่อพวกเราทุกคน


คุณพีหน้าเดียว ผู้ชายที่ดูเคร่งขรึมและเป็นพระเอกตลอดเวลา


คุณศักผู้ชายละมุน ผู้ชายที่แข็งแรงแบกได้ทุกอย่างในโลกแม้แต่กล้องตัวใหญ่และขาตั้งกล้องตลอดทริป


คุณหมอเฟผู้เสียสละ รักษาบีบนวดให้ทุกคนในทีมอย่างไม่รู้จักเหนื่อยจนตัวเองป่วย


นางฟ้าออมสิน เป็นผู้หญิงละมุน พูดน้อย ทำกับข้าวเก่ง


พี่ชัยผู้ชายที่แสนอบอุ่น (อันนี้โดนบังคับมา จริงๆ เราตั้งชื่อพี่ชัยผู้บึกบึน อิอิ) เพราะไม่ว่าเดินเท่าไหร่นักวิ่งเทรลคนนี้ก็ดูชิลๆ เสมอ


พี่เอฟslowlife ผู้ชายชิลๆ ที่รักการจิบกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ เช้า สาย บ่าย ก่อนนอน


พี่ตุ๊กตากาแฟสด พี่สาวที่รักการกินกาแฟสด แม้กระทั่งเดินป่า แต่ชุดดริปกาแฟครบนะจ๊ะ ...


... ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ...



... จ่าดับที่รัก ที่คอยดูแลเราตลอดทริปการเดินทาง หรือจะเรียกได้ว่า ผู้เข็ญครกขึ้นภูเขาก็ได้ ถ้าไม่มีผู้พิทักษ์ป่าจ่าดับสุดหล่อคนนี้ เราคงไปไม่ถึงหินเรือใบแน่นอน (เอาไว้เราเล่าแยกเนอะ) ...



พี่ๆ ผู้พิทักษ์ป่าทุกคน ผู้เสียสละช่วยเหลือดูแลพวกเราตลอดทริป แม้พวกเขาจะเหนื่อย พวกเขาจะร้อน พวกเขาต้องทนสารพัดเรื่องกับเรา แต่พวกเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมจริงๆ


ลูกหาบผู้บึกบึน ผู้ที่คอยช่วยแบกอาหาร สัมภารกทั้งหลายของพวกเราทุกคน ถ้าไม่มีพวกเขาพวกเราคงต้องเหนื่อยยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ พวกเขาน่ารักเนอะ ...


... เรายังจำได้ดีในวันสุดท้ายที่ถึงยอดเขา และเราเห็นทุกคน มันคือภาพที่ดีมากจริงๆ ทุกคนรู้สึกดีใจที่เรามาถึงจนเรานี่หายเหนื่อยไปด้วยเลย วันนั้นคือวันหนึ่งที่เรายังจดจำได้ถึงวันนี้ ขอบคุณนะทุกคน ...


... ขอบคุณทุกคน ขอบคุณโลกที่เหวี่ยงให้เราทุกคนมาเจอกัน ...


... ตอนไปเราอาจจะไปคนเดียวแต่ตอนกลับมาเราได้มิตรภาพและเพื่อนกลับมามากมาย ...


... จริงๆ ไม่ว่าคนที่เรารู้จักจะยังอยู่ข้างเราหรือป่าว มันไม่ใช่เรื่องสำคัญกับเราเลยจริงๆ เพราะอย่างน้อยเราก็ลดคนแปลกหน้าบนโลกลงไปอีกหนึ่งคน ก็นับว่าคุ้มแสนคุ้มจากการออกเดินทางของเรา ...


... มิตรภาพไม่ได้เริ่มต้นจากเสียงหัวเราะหรือร้องไห้ แต่มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อเราชอบอะไรคล้ายๆ กัน และเริ่มออกเดินทางไปด้วยกัน ...


ขอบคุณรูปสวยๆ จากทุกๆ คน ...


ขอบคุณสำหรับมิตรภาพดีๆ ที่สร้างความสุขระหว่างการเดินทางให้กันและกัน ...


สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องราวของเรา หวังว่าวันหนึ่งเราจะได้เป็นคนรู้จักกันนะค่ะ  ....



เขียนและเรียบเรียงโดย : ตัวอักษรสีน้ำเงิน


Facebook : https://www.facebook.com/blueletterstudio/

StoryLog : https://storylog.co/BlueLetterStudio


ความคิดเห็น